สปอยหนัง The Devil Wears Prada นางมารสวมปราด้า เมื่อหญิงสาวสุดเนิร์ดที่ไม่เคยสนใจเรื่องการแต่งตัวต้องมาทำงานให้กับนิตยสารแฟชั่นชั้นนำระดับโลกเพื่อเป็นใบเบิกทางให้ตัวเองไปสู่งานที่หวังไว้การปรับตัวและแรงกดดันต่างๆจะทำให้เธอยอมถอดใจหรือเดินหน้าต่อ เปิดเรื่องมาจะทำให้เรารู้จักกับ แอนเดรีย แซคส์ หญิงสาวเป็นเหมือนนักศึกษาจบใหม่ทั่วไป ที่ต้องออกตระเวนสมัครงานไปตามที่ต่างๆ เนื่องจากแอนเดรียมีความฝันอยากทำงานเป็นนักหนังสือพิมพ์ เธอจึงส่งจดหมายสมัครงานไปยังสำนักพิมพ์ต่างๆ หลายแห่ง แต่โชคร้ายที่ไม่มีแห่งใดตอบรับเธอกลับมาเลย
วันหนึ่ง แอนเดรียก็ได้รับแจ้งเรียกตัวเข้ารับการสอบสัมภาษณ์จากยักษ์ใหญ๋ อีเลียส คลาร์กส ซึ่งเป็นเจ้าของนิตยสารและวารสารขายดีหลายฉบับ แอนเดรียตื่นเต้นเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเธอไปถึง ก็ได้พบว่างานที่ถูกเรียกมาสัมภาษณ์นั้น เป็นตำแหน่งงานผู้ช่วยของมิแรนด้า พรีสท์ลี่ บรรณาธิการบริหารของนิตยสารแฟชั่นอันดับ 1 อย่างรันเวย์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นตำแหน่งที่หญิงสาวนับล้านคนยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มา แอนเดรียซึ่งไม่เคยสนใจในเรื่องแฟชั่นมาก่อน ถึงกับหมดหวังที่จะผ่านการสอบสัมภาษณ์ แต่ความแตกต่างที่ไม่เหมือนใครของเธอ กลับทำให้มิแรนด้าสนใจ และตกลงรับเธอเข้าทำงาน
ในเย็นวันนั้นเพื่อนๆกับแฟนหนุ่มของแอนเดรียก็ได้มานั่งฉลองงานใหม่ของเธอที่บาร์แห่งหนึ่งทุกคนต่างแทบไม่เชื่อว่าสาวเนิร์ดผู้ซึ่งไม่รู้อะไรเกี่ยวกับแฟชั่นอย่างเธอ กลับได้ทำงานที่นิตยสารแฟชั่น หลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกันกลับ แอนเดรีย พูดอย่างเป็นกังวลกับแฟนหนุ่มของเธอ ถึงเรื่องเสื้อผ้าที่ต้องใส่ไปทำงานว่าเธอไม่มีเสื้อผ้าแฟชั่นดีๆใส่เลย ซึ่งเขาก็ปลอบใจเธอด้วยคำพูดที่ว่าคนรับโทรศัพท์กับซื้อกาแฟจำเป็นจะต้องใส่ชุดราตรีทำงานด้วยหรือไง
วันถัดมา ผู้ช่วยเบอร์1 บอกแอนเดรียว่าเราทั้งสองมีหน้าที่คอยรับโทรศัพท์ และต้องคอยซื้อกาแฟในทุกๆเช้า และถ้าหากตัวผู้ช่วยเบอร์หนึ่งไม่อยู่ แอนเดรีย จะต้องนั่งประจำโต๊ะของตัวเอง ห้ามไปไหนเด็ดขาด เพราะเคยมีผู้ช่วยคนใหม่ทำให้มิแรนด้าพลาดสายสำคัญ จนถึงตอนนี้ผู้ช่วยคนนั้นก็ไม่สามารถออกไปหางานดีๆทำได้อีกเลย เนื่องจาก มิแรนด้าได้ดิสเครดิตเธอ
ระหว่างที่แอนเดรียกำลังหัวหมุนกับงานใหม่ของเธออยู่นั้น ไนเจล นักออกแบบคอลัมน์และสไตล์ลิสคนสนิทของมิแรนด้า ก็ได้ถือรองเท้าแบรนด์เนมมาให้แอนเดรีย ทางแอนเเดรียก็ปฏิเสธที่จะรับมันไว้ แต่เมื่อเห็นสายตามิแรนด้าทำให้เธอต้องยอมใส่มันในทันที
ขณะพักกินข้าวกลางวัน เธอได้พบกับไนเจลอีกครั้ง บอกกับเธอไปว่า การกินตามอำเภอใจ จะทำให้เธออ้วนขึ้นได้ แอนเดรียได้ตอบเขาไปว่า เธอไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อใคร เพราะเธอไม่ได้ตั้งใจจะอยู่ในวงการแฟชั่นนี้ตลอดไป
ต่อมา มิแรนด้าจะต้องซ้อมเลือกชุดนางแบบให้กับ นางแบบของนิตยสาร ขณะที่เธอกำลังครุ่นคิดกับการเลือกเข็มขัด ที่ดูไม่ต่างกันเท่าไหร่ แอนเดรียก็เผลอหลุดหัวเราะ ทำให้มิรินดารู้สึกหัวเสียขึ้นมาทันที เธอจึงหันไปพูดถึงเรื่องการแต่งตัวและความล้าสมัยของแอนเดรีย จนทำให้เธอทำตัวไม่ถูกกันเลยทีเดียว
ในคืนนั้น แอนเดรีย ได้นำเรื่องราวนี้มาระบายให้กับแฟนหนุ่มของเธอ ซึ่งเธอก็ไม่เข้าใจถึงความสำคัญของรายละเอียดเล็กๆที่คนเหล่านั้นให้ความสนใจ ก่อนจะบอกกับแฟนหนุ่มต่อไปว่าเธอต้องทนทำงานที่นี่ให้ได้ 1 ปี เพื่อที่จะได้มีประสบการณ์ไปทำงานอย่างที่ตั้งใจเอาไว้
เรื่องราวดำเนินให้เห็นว่าตำแหน่งงานผู้ช่วยนี้ ทำให้แอนเดรีย แทบจะไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง เธอต้องคอยทำงานทุกอย่างที่มิแรนด้าส่งมาให้ ไม่ว่างานนั้นจะเกี่ยวกับงานหรือเรื่องส่วนตัวของมิแรนด้า แถมผู้ช่วยเบอร์ 1 มัวแต่จะคอยโยนงานจุกจิกให้เธอเสมอ
อย่างไรก็ตาม แอนเดรียได้เรียนรู้ว่า การทำงานในวงการแฟชั่นนั้น แม้ภายนอกจะดูสวยงาม เลิศหรู แต่เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งเหล่านี้ กลุ่มคนที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง ล้วนแต่ต้องใช้ความพยายาม และความทุ่มเทอย่างเต็มที่ เพื่อให้ได้ผลงานที่มีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับออกมา ความร้ายกาจ ความเข้มงวด ความจุกจิกจู้จี้ และเอาแต่ใจจนดูเหมือนไร้เหตุผลของมิแรนด้า กลับเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้นิตยสารอย่างรันเวย์ ยังคงครองความนิยมเป็นอันดับ 1 อยู่ได้
หลายเดือนผ่านไป แอนเดรียรับมือกับงานได้เป็นอย่างดี และยังคอยจัดการธุระต่างๆล่วงหน้าให้กับมิแรนด้าได้ด้วย ในคืนวันศุกร์ แอนเดรียม นัดกินข้าวกับพ่อของเธอ ขณะนั้นมิแรนด้าก็ได้โทรเข้ามาบอกถึงเรื่องเที่ยวบินที่ถูกยกเลิกของเธอ เนื่องจากปัญหาสภาพอากาศ มิแรนด้าบอกให้แอนเดรียหาเที่ยวบินใหม่ให้กับเธอให้ได้ เพราะเธอต้องรีบไปให้ทันการแสดงโชว์ดนตรีของลูกแฝดในวันพรุ่งนี้
แต่แอนเดรียก็ไม่สามารถหาเที่ยวบินไหนให้กับมิรันดาได้เลย และเหตุการณ์นี้ทำให้มิแรนด้าอันตรธานโกรธแอนเดรียที่ไม่สามารถรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตัวเองได้และดูเหมือนว่ามิแรนด้าจะคอยคาดหวังให้แอนเดรียทำตามในสิ่งที่เธอต้องการอยู่เสมอ
แอนเดรีย ที่กดดันจนแทบทนไม่ไหว ก็ได้นำเรื่องต่างๆเหล่านี้มาระบายให้กับ ไนเจล ฟัง ว่าเธอไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อ เพราะเมื่อเธอทำดีมันก็แค่นั้น มิแรนด้าไม่เคยกล่าวชื่นชมเธอเลย แถมเมื่อเธอทำพลาดก็มีแต่จะซ้ำเติมเธอ ซึ่ง ไนเจล ก็แนะนำให้แอนเดรียลาออกจากงานไปซะ เพราะพวกเขาสามารถหาคนมาแทนเธอได้ภายใน 5 นาที ก่อนจะบอกต่อไปว่าเราไม่มีเวลามานั่งคิดน้อยใจเรื่องพวกนี้กันหรอกนะ เพราะเราต้องทำงานกับศิลปินระดับโลกมากมาย และนี่ไม่ใช่แค่นิตยสารธรรมดา แต่มันคือไฟส่องทาง
เขาเล่าต่อไปว่าสมัยเด็กเขาเติบโตมากับพี่น้องผู้ชายที่ต้องซ้อมบอลในตอนกลางวัน แต่พอตกดึก เขาต้องแอบอ่านเอกสารรันเวย์ใต้ผ้าห่มพร้อมกับไฟฉาย และนี่คือสาเหตที่ทำให้เขามาถึงจุดนี้ และเมื่อแอนเดรียได้ปรับทัศนคติใหม่ เธอจึงขอร้องให้ ไนเจล ช่วยเปลี่ยนแปลงการแต่งตัวของเธอ ให้เหมาะกับงานผู้ช่วยบ.ก. นิตยสารแฟชั่นชื่อดังให้อีกด้วย
และ ไนเจล ก็เริ่มเลือกเสื้อผ้าแบรนด์ชั้นนำต่างๆเพื่อเปลี่ยนบุคลิกใหม่นี้ให้กับเธอ เรื่องราวดำเนินให้เห็นว่าในตอนนี้แอนเดรียไม่ใช่แค่ต้องปรับการทำงานของตัวเองให้เหมาะสม แต่เธอต้องยอมเปลี่ยนแปลงบุคลิกของตัวเองเพื่อให้เหมาะกับงานด้วย
หลังจากที่เธอได้รับความช่วยเหลือจากไนเจล มินแรนด้าก็ดูประหลาดใจอยู่ไม่น้อย ท่เธอสามารถแมทช์ชุด เสื้อผ้าของตัวเองได้อย่างมืออาชีพ วันเวลาผ่านไป จากสาวสุดเนิร์ดก็กลายเป็นสาวแฟชั่นผู้นำแห่งการแต่งตัวไปในทันที เธอมั่นใจมากขึ้นในที่ทำงาน
แอนเดรีย ทุ่มเทให้กับงานเป็นอย่างมาก จนเธอนั้นแทบจะไม่มีเวลาให้กับแฟนหนุ่มและเพื่อนๆของเธอ และดูเหมือนว่าคือบุคลิกที่เปลี่ยนไปมันทำให้แอนเรือกลายเป็นสาววัตถุนิยมไปโดยปริยาย ซึ่งแฟนหนุ่มก็พยายามจะเตือนเธอเรื่องนี้อยู่หลายครั้ง แต่เธอก็ไม่สนใจในคำพูดของเขาเลยแม้แต่น้อย
ซึ่งในตอนนี้ แอนเดรีย ดูจะจัดการชีวิตที่ยุ่งเหยิงของมิแรนด้าให้เข้าที่เข้าทางได้เป็นอย่างดี จนกระทั่งต้องนำหนังสือต้นฉบับไปส่งให้ ดีไซเนอร์ชื่อดังอย่างเจมส์ซึ่งในเหตุการณ์นี้ ก็ทำให้เธอได้รู้จัก คริสเตียนทอมนักเขียนคอลัมน์ชื่อดัง
ต่อมามิแรนด้าบอกว่าต้องการหนังสือ Harry Potter ต้นฉบับล่าสุด ให้กับลูกแฝดของเธอภายในวันนี้ ซึ่งมันไม่มีทางจะเป็นไปได้เลย ที่เธอจะเอาต้นฉบับนั้นมาได้ทั้งๆที่มันยังไม่ได้ตีพิมพ์ และมันก็ดูเหมือนว่า ตอนนี้มิแรนด้า จะพยายามหาเรื่องไล่ แอนเดรีย ออก แอนเดรียก็พยายามจะติดต่อกับทุกสำนักพิมพ์ที่เธอรู้จัก แต่ก็ไม่มีใครสามารถให้ต้นฉบับนี้กับเธอได้เลย แต่แล้วเธอก็หาต้นฉบับมาได้จากการช่วยเหลือของคริสเตียนนักเขียนคอลัมน์ชื่อดังที่เขาบังเอิญรู้จักกับคนออกแบบปกหนังสือแฮร์รี่พอตเตอร์
ต่อมา ขณะแอนเดรียเตรียมไปฉลองงานวันเกิดของแฟนหนุ่ม กับเพื่อนๆของเธอ มิแรนด้าได้สั่งให้เธอไปงานเลี้ยงการกุศลกับเธอในคืนนี้ด้วย เพราะผู้ช่วยเบอร์ 1 เกิดมีอาการป่วย ทำให้เธอต้องจำใจไป ซึ่งครั้งนี้ทำให้แฟนของแอนเดรีย รู้สึกน้อยใจเธอเป็นอย่างมาก
ในคืนหนึ่งขณะที่แอนเดรียเอาหนังสือต้นฉบับมาส่งให้กับมิแรนด้าเธอก็ได้รู้ว่าผู้ช่วยที่จะได้ไปงานปารีสแฟชั่นกับมิแรนด้าคือเธอ ซึ่งเธอรู้สึกลำบากใจเป็นอย่างมากเพราะก่อนหน้านี้ผู้ช่วยเบอร์ 1 พูดย้ำถึงเรื่องงานนี้อยู่เสมอว่ามันคือความฝันสูงสุดของเธอ แต่แอนเดรียก็พูดเชิงบังคับแอนเดรียไปว่า จะยอมทิ้งงานหรือยอมร่วมทำงานไปกับเธอเพื่อเป็นใบเบิกทางให้กับงานอื่นๆในอนาคต
เรื่องราวดำเนินให้เห็นว่าในตอนนี้แอนเดรียได้มีปัญหากับแฟนหนุ่มของเธอทันทีหลังจากที่เขาได้รู้ว่าเธอนั้นกำลังจะต้องเดินทางไปที่ปารีส จนสุดท้ายทั้งสองได้ตัดสินใจหยุดความสัมพันธ์กันสักพัก ต่อมาเธอได้เข้าชมงานเดินแบบเสื้อผ้า ซึ่งคริสเตียนก็ได้มาร่วมงานด้วย และเขาก็พยายามจะเข้ามาจีบเธอ ซึ่งมันก็ทำให้เธอวางตัวไม่ถูก เพราะเธอเพิ่งเลิกกับแฟนหนุ่มของเธอได้ไม่นาน
ต่อมาในคืนหนึ่งแอนเดรียได้มานั่งดินเนอร์กับคริสเตียน หลังจากนั้นทั้งสองก็ได้ไปเที่ยวชมเมืองปารีสและจบค่ำคืนอันแสนวานนี้ด้วยกัน
เมื่อตื่นขึ้นจึงได้รู้ว่า แจ็คเกอรีน ฟอเรส จะมาเป็นบ.ก.แทนมิแรนด้า เพราะเธอสาวกว่า มีมุมมองที่ใหม่กว่า และที่สำคัญค่าตอบแทนถูกกว่า แอนเดรียจึงนำเรื่องนี้ไปบอกกับมิแรนด้า แต่เธอก็ดูจะไม่ได้ตกใจเลยสักนิด ตัดภาพมาที่งานเลี้ยง มิแรนด้าได้ขึ้นมากล่าวขอบคุณแขกในงาน และทิศทางของบริษัท ในระหว่างนั้นไนเจลซึ่งนั่งฟังด้วยความหวังว่าจะได้เลื่อนตำแหน่ง แต่มิแรนด้ากลับหักหลังไนเจล บอกชื่อหุ้นส่วนคนใหม่นั้นเป็นชื่อหญิงสาวที่เกือบจะได้เป็นบ.กแทนเธอ เพื่อให้ตัวเองไม่ถูกไล่ออกนั่นเอง
ต่อมา แอนเดรียรู้ได้ถึงความไม่ปกติของวงการนี้ และมิแรนด้าได้บอกกับเธอว่า เธอเป็นคนวางแผนทั้งหมด และต่อไปแอนเดรียก็จะทำแบบเดียวกับเธอ เมื่อมาถึงงาน มิแรนด้าได้เดินเข้างานที่เต็มไปด้วยสื่อมวลชนมากมายที่มาต้อนรับ ส่วนแอนเดรียได้ใช้โอกาสนี้หนีออกมา เพราะเธอได้รู้แล้วว่าวงการนี้ไม่เหมาะกับเธอ มีแต่พวกจอมปลอม แอนเดรียตัดสินไปหาแฟนหนุ่มเพื่อปรับความเข้าใจกัน
แอนเดรียได้กลับมาทำตามความฝัน มาสมัครงานที่สำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง ซึ่งขณะนั้นบ.ก.ที่สอบสัมภาษณ์ก็ได้บอกกับเธอไปว่า เขาได้โทรไปเช็คกับทางรันเวย์เรื่องของเธอแล้ว และมีแรนด้าก็ได้ส่งแฟกซ์กลับมาบอกว่าในบรรดาผู้ช่วย เธอคือความผิดหวังครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด เมื่อได้ยินเช่นนั้นเธอก็คิดขึ้นมาทันทีว่าเธอจะไม่ได้งานนี้แน่ๆ แต่สุดท้ายเขาก็รับเธอเข้าทำงาน พร้อมบอกกับเธอไปว่า ถ้าเขาไม่รับเธอ เขาคงเป็นไอ้งั่งแน่ๆ
แอนเดรียเดินออกมาจากสำนักงานด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขเป็นอย่างมาก เธอได้ทำในสิงที่ชอบจริงๆแล้ว ระหว่างทางก็ได้บังเอิญพบกับมิแรนด้า เธอได้โบกมือทักทาย แต่ด้วยความเย่อหยอ่ง วางมาด มิแรนด้าไม่ได้สนใจเธอสักนิด และเมื่อแอนเดรียกำลังจะเดินจากไป สายตาของมิแรนด้าได้แอบมองไปทางแอนเดรีย พร้อมกับแอบยิ้ม ในใจลึกๆแล้ว เธอชื่นชมแอนเดรีย และหนัง ก็ตัดจบแต่เพียงเท่านี้
รีวิวหนังใหม่ Infested (2024) ฝูง 8 ขากับดักสยอง หนังฝรั่ง แนวสยองขวัญ ระทึกขวัญ ผลงานผู้กำกับ เซบาสเตียน วานิเช็ก และนำแสดงโดย ธีโอ คริสตีน,…