สปอยหนัง Rose Island
สปอยหนัง Rose Island เกาะสวรรค์ฝันอิสระ เรื่องราวเริ่มต้นด้วยจอร์โจ โรซ่า วิศวกรชาวอิตาลี รอเข้าพบเจ้าหน้าที่อาวุโสของสภายุโรป เพื่อเสนอเรื่องให้สภายุโรปพิจารณา Rose Island สตอรี่ ตั้งอยู่นอกน่านน้ำอิตาลี เขาอยู่ที่นี่มาสองวันแล้ว และเมื่อเจ้าหน้าที่สภายุโรปได้รับแฟ้มของเขา พวกเขาก็ไม่สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย เขาทิ้งแฟ้มนั้นลงถังขยะ แต่สายตาเจ้าหน้าที่ระดับสูง ได้เหลือบไปเห็นสัญลักษณ์ขององค์การสหประชาชาติ เขาจึงรีบหยิบเอกสารนั้นมาอ่าน และขอให้เจ้าหน้าที่ไปตามโรซ่า เพื่อไปพบเขาในห้องทำงาน แต่เมื่อได้คุยกันกลับกลับคิดว่า โรซ่า คงจะเป็นโรคประสาท พวกเขาจึงปล่อยให้เขากลับบ้าน
ในคืนนั้น โรซ่าและกลุ่มเพื่อนของเขา ได้ฉลองการสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนวิศวกรรมศาสตร์ในเมืองโบโลญญา ประเทศอิตาลี เขาได้พบกับแฟนใหม่ของเขา กาเบรียลล่า ซึ่งเคยมีความสัมพันธ์กัน ปัจจุบัน กาเบรียลล่า เธอเป็นทนายความด้านกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งสองคนคุยกันไม่นาน โรซ่าก็อาสาขับรถที่เขาประดิษฐ์เอง พาเธอกลับบ้าน แต่ถูกตำรวจเรียกตัว เพราะรถของเขาไม่มีใบอนุญาต มันเลยทำให้กาเบรียลล่า หงุดหงิดและโกรธเขามาก
เธอต้องถูกตรวจสอบประวัติอาชญากรรม ด้วยความที่เธอไม่มีประวัติ ตำรวจจึงปล่อยเธอไป และโรซ่าที่มีประวัติ ถูกจับกุม และรถของเขาก็ถูกลากออกไป แล้วพ่อของโรซ่า ก็ได้ประกันตัวเขาออกมา ระหว่างทางกลับบ้าน พ่อโรซ่าบอกเขาให้เขาทำตัวเหมือนคนปกติ และไปทำงานที่อู่ซ่อมรถของเพื่อนพ่อซะ ต่อมาโรซ่าไปพบกาเบรียลล่า ที่กำลังสอนอยู่ ตั้งใจจะไปขอโทษเธอเรื่องเมื่อคืน แต่เธอกลับหงุดหงิดเขา และบอกโรซ่าว่า เธอไม่ต้องการเสี่ยงต่อประวัติอาชญากรรม เพราะนั่นอาจทำให้เธอพลาดการสอบตำแหน่งศาสตราจารย์ ทั้งคู่จึงทะเลาะกัน กาเบรียลล่า บอกกับโรซ่าว่า เขาไม่มีทางสร้างโลกด้วยตัวเขาเองได้ เพราะมันไม่ง่ายเหมือนกับการสร้างรถของเขา แล้วเธอก็เดินจากเขาไป ซึ่งนั่น เป็นจุดเริ่มต้นของความคิดในการสร้างเกาะของโรซ่า
สามเดือนต่อมา เขาตัดสินใจเข้าร่วมทีมแข่งรถของเพื่อนพ่อ เขาได้รับมอบหมายให้ส่งมอบรอบการเปลี่ยนยางให้กับนักแข่งของทีม เขาได้หันไปเห็นป้ายโฆษณาข้างสนามแข่ง เป็นป้ายแท่นขุดเจาะน้ำมันกลางทะเล ที่เขียนว่า พลังงานของคุณ อิสรภาพของคุณ เขายืนนิ่งคิดอยู่นาน จนลืมยกป้ายบอกนักแข่ง จนผู้ขับประสบอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำได้รับความเสียหาย และสุดท้ายเขาก็ถูกไล่ออก โรซ่าจึงติดต่อเมาริซิโอ้เพื่อนสนิทของเขาที่จบวิศวะไป เพื่อโน้มน้าวเขาเกี่ยวกับการสร้างเกาะที่อยู่ห่างจากชายฝั่งอิตาลี 6.8 ไมล์ทะเล ซึ่งในเวลานั้นเมาริซิโอ้กำลังประชุมกับพนักงาน เรื่องมีเงินหายไปจากตู้เซฟของบริษัท และโบ้ยความผิดให้ลูกน้อง เมื่อเขารู้ว่าโรซ่ามาพบ เขารีบออกจากที่ประชุม และลงมาหาเพื่อนสนิททันที และด้วยเมาริซิโอ้ที่เหนื่อยหน่ายกับการทำงานในบริษัทของพ่อของเขาเต็มทน พวกเขาจึงร่วมมือกัน
หลังจากนั้น ทั้งสองคนเริ่มสร้างเกาะด้วยกัน โดยมีเมาริซิโอ้เป็นนายทุน เพราะเขาคือคนที่ขโมยเงินในตู้เซฟของพ่อเขามาเอง ทั้งคู่กำลังคิดว่าจะใช้วัสดุอะไรในการสร้างในงบประมาณที่จำกัด และสุดท้าย ด้วยความเฉลียวฉลาดของโรซ่า เขาสามารถใช้เหล็กกลวงแทนเสาได้ พวกเขาจึงดำเนินการตั้งเสาเหล็กด้วยกันเพียงสองคน ขณะขุดเจาะน้ำสะอาดในก้นทะเล ก็มีทีมตรวจสอบเข้ามาสั่งให้พวกเขาหยุด แต่พวกเขาก็ได้ให้เหตุผลว่าเป็นเพียงการขุดเจาะหาน้ำดื่ม พวกเขาจึงกลับไป ขณะเดียวกันก็ขุดน้ำได้สำเร็จ แล้วเขา ก็ได้มานอนบนเกาะแห่งนี้ในคืนแรก บนเกาะมีข้าวของทุกชนิด แม้ว่าจะไม่มีอาคารก็ตาม และแม้อากาศจะบริสุทธิ์ แต่บางวันก็ต้องพบกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศกะทันหัน ทำให้เขาเปียกเพราะไม่มีที่กำบังฝน แล้วโรซ่า ก็ได้พบกับเรือลำเล็กที่ใกล้จะพังเต็มที เข้ามาขอความช่วยเหลือจากเกาะของเขา โรซ่าได้พบกับ ปิเอโต้ ซึ่งเขาได้กลายเป็นชายคนแรกที่เข้ามาอาศัยอยู่ที่เกาะแห่งนี้ ปิเอโต้เข้ามา ทำหน้าที่เป็นช่างเชื่อมในการก่อสร้างเกาะ
ตัดมาที่ นอยมันน์ ชายชาวเยอรมัน เมื่อเกิดสงครามขึ้น เขาถูกตั้งข้อหาหนีทหาร และถูกเพิกถอนสัญชาติเยอรมัน จนกลายเป็นคนไร้สัญชาติ และก็ถูกนายจ้างใช้ไปทำความสะอาดห้องน้ำ ขณะทำงาน เขาได้ยินเรื่องการเปิดโร้ดไอส์แลนด์ เป็นเกาะแห่งอิสรภาพที่สามารถทำทุกอย่างที่ต้องการได้ เขาจึงเดินทางมายังเกาะ และทำหน้าที่เป็นตัวแทนประชาสัมพันธ์ชายหาด เนื่องจากเขาเคยเป็นตัวแทนประชาสัมพันธ์ชายหาดทางตอนใต้ของอิตาลีมา ก่อนหน้านั้น ด้วยความสามารถและประสบการณ์อันน้อยนิดของเขา ทำให้เกาะเริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ผู้คนเริ่มรู้จักเกาะแห่งอิสรภาพแห่งนี้ ส่งผลให้มีผู้คนมาเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้เป็นจำนวนมาก และเกาะนี้กำลังจะกลายเป็นรัฐเอกราชดังที่โรซ่าตั้งใจแล้ว แต่ก่อนที่จะเปิดตัวในเวลาที่เหมาะสม ขณะเดียวกันบางประเทศกำลังประท้วง และมีสงครามเกิดขึ้น ด้วยสโลแกนของรัฐเสรีนี้ก็คือ เราสร้างโลกที่ดีกว่า นั่นคือเหตุผลว่าทำไมที่นี่ถึงมีชื่อเสียงมาก จนกระทั่งข่าวการเมืองของประเทศต่างๆเริ่มหมดไป
ต่อมามีผู้หญิงท้องคนหนึ่งมาที่เกาะแห่งนี้ เพื่อจะสมัครเป็นบาร์เทนเดอร์ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นพ่อของลูก และเมื่อเธอเห็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นอิสระของเกาะ เธอจึงอยากเข้าร่วม และในที่สุด กาเบรียลล่าก็มาโร้ดไอส์แลนด์ โรซ่าดีใจมาก จึงพาเธอขึ้นไปยืนอยู่บนดาดฟ้าของเกาะ กากาเบรียลล่าบอกเขาว่า เธอได้ยินข่าวเกี่ยวกับเขา เธอจึงอยากมาเห็นมันด้วยตัวเธอเอง และเธอยังพูดอีกว่า เธอกำลังจะแต่งงาน โรซ่าได้ยินแบบนั้นจึงได้พูดกับเธอว่า คุณเหมาะที่จะอยู่ที่นี่มากกว่า
แล้ววันหนึ่ง พวกเขาได้ประชุมกันเกี่ยวกับโมเดลธุรกิจบนเกาะ เมาริซิโอ้ต้องการให้เกาะนี้เป็นบ่อนการพนันลอยน้ำ แต่นอยมันน์ต้องการให้มีการแข่งขันสกีน้ำ ขณะนับเงินจากรายได้ที่เข้ามา โรซ่าบอกว่า ตอนนี้เขามีทุกอย่างแล้ว และสิ่งเดียวที่เขาต้องการก็คือ รัฐบาลของรัฐเอกราชนี้ ทุกคนเงียบฟังสิ่งที่เขากำลังจะพูดและหวังว่าจะเป็นบุคคลสำคัญในรัฐบาลของรัฐอิสระนี้เช่นกัน
ต่อมา โรซ่า จึงเดินทางไปนิวยอร์กไปยังที่ตั้งสำนักงานใหญ่สหประชาชาติ โรซ่าและคนของเขา ได้ส่งจดหมายถึงสหประชาชาติ เพื่อรับรู้ถึงความเป็นอิสระของโร้ดไอส์แลนด์ เลขาธิการสหประชาชาติจึงเรียนเรื่องแก่ ประธานาธิบดี รัฐมนตรีของอิตาลี เขาจึงส่งเจ้าหน้าที่ข่าวกรอง 2 คน ไปที่โรดไอส์แลนด์ เพื่อนำข้อมูลกลับมารายงานต่อรัฐบาลอิตาลี และเมื่อรัฐบาลมีการประชุม ฟันโก้เล่าว่า โรดไอส์แลนด์ต้องการได้รับการสถาปนาเป็นรัฐเอกราช โดยมีโรซ่าและพรรคพวกของเธอเป็นผู้ถือหุ้น ทั้งที่ประชุมถึงกับอึ้ง และเมื่อการประชุมจบลง ประธานาธิบดี ก็ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ข่าวกรอง 2 คนกลับมา เพราะถูกส่งไปตามหาข่าว แต่ไม่ค่อยคืบหน้าเท่าไหร่ และยิ่งนานวันผ่านไป ข่าวการขอเป็นรัฐเอกราชของโรดไอส์แลนด์ ยิ่งเพิ่มความสนใจให้แก่ผู้คน
ข่าวก็แพร่สะพัดไปทั่ว ประธานาธิบดี ต้องออกแถลงข่าว อ้างถึงความไม่มั่นคงของเกาะ ที่นั่นมียาอยู่เพียบ มีการพนัน และมันผิดศีลธรรมในทุกด้าน รัฐบาลอิตาลีจะไม่มีวันยอมให้เป็นเช่นนั้น แล้วเมื่อพ่อแม่ของโรซ่าเห็นข่าว พวกเขาไม่ค่อยสบายใจนัก แต่ในทางกลับกัน ณ โรดไอด์แลนด์ มีจดหมายกองใหญ่ ของคนที่สนใจสมัครเป็นพลเมืองของรัฐเอกราชนี้ พ่อแม่ของโรซ่ามาเยี่ยมลูกชาย ดูเหมือนพวกเขาจะเป็นห่วงจริงๆ และหลังจากนั้น มีตัวแทนจากภาครัฐมาขอเจรจา ให้เขาหยุดกิจกรรมของเขาบนเกาะ เพื่อแลกกับสิทธิประโยชน์สัมปทานชายหาดสองรายการ ที่รัฐบาลอิตาลีจะให้เขาทำไปตลอดชีวิต แต่โรซ่าไม่สนใจสิ่งที่พวกเขาเสนอ
เช้าวันรุ่งขึ้น ท่านประธานทราบแล้ว มีจดหมายขอคืนสัญชาติอิตาลี เพื่อให้ได้สัญชาติโรดไอส์แลนด์ เพราะพวกเขามาจากหลากหลายเชื้อชาติ ท่านประธานบอก ประธานาธิบดี ให้หาวิธีทำลายเกาะ ก่อนที่ทางเลือกจะบานปลายไปมากกว่านี้ ดังนั้น ประธานาธิบดี จึงเริ่มต้นด้วยการทำสิ่งง่ายๆ นั่นคือ ให้ยุติงานพ่อของโรซ่า แต่มันก็หยุดสิ่งที่เขาจะทำไม่ได้
ต่อมาเมื่อโรซ่า เดินทางไปหา กาเบรียลล่า เพื่อขอให้เธอเป็นทนายความให้เขา ในการอ้างว่าเป็นรัฐเอกราช แต่เธอบอกเขาว่า เขาไม่ควรเขียนถึงสหรัฐอเมริกาเช่นนั้น เพราะมันทำให้รัฐบาลอิตาลีโกรธเคืองแม้ว่าเขาจะเป็นอิสระในการสร้างก็ตาม แต่พวกเขาก็เป็นพลเมืองของอิตาลีด้วย วิธีนี้ จะเป็นตัวอย่างให้คนอื่นทำตาม เธอปฏิเสธที่จะเป็นทนายความให้เขา
โรซ่าจึงตัดสินใจไปสภายุโรปคนเดียว เพื่อเข้าพบคณะกรรมการสภา เขานั่งรอเกือบหนึ่งสัปดาห์เพื่อพบกับโรซ่าและบอกสภาตั้งแต่ต้นจนจบ แต่เมื่อประธานาธิบดี ได้ยินข่าวว่าโรซ่าได้พบกับสภายุโรป ทำเขาประธานาธิบดีโกรธเป็นอย่างมาก เขาจึงรีบโทรหาโรซ่า เพื่อโน้มน้าวให้ยกเลิกกิจกรรมบนเกาะ และออกจากสภายุโรป แต่โรซ่าก็บอกเขาว่า สภายุโรปได้พิจารณากรณีของเขาแล้ว นั่นทำให้ ประธานาธิบดี โกรธมาก และขู่ว่าจะทำลายเกาะโร้ดไอส์แลนด์
โรซ่าจึงรีบออกจากสภายุโรปและกำลังจะเดินทางไปที่เกาะของเขา ขณะกำลังจะเดินทางเขาก็ได้พบกับกาเบรียลล่า เธอตัดสินใจยุติงานแต่งงาน และบอกกับเขาว่า เธอพร้อมจะอยู่ที่เกาะกับเขาแล้ว เพราะตอนนี้เธอได้รู้แล้วว่า โรซ่าสร้างเกาะนี้ให้เธอ
ในเช้าวันต่อมา ก็ได้มีเรือรบของรัฐบาลอิตาลี เตรียมทำลายล้างเกาะนี้ทิ้ง และทันทีที่เรือเคลื่อนมาถึง เพื่อนๆของโรซ่า ก็ได้ออกมายืนประจันหน้า เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นและแน่วแน่ที่จะปกป้องเกาะนี้ และไม่หวั่นแม้ลูกกระสุนจะยิงมาใกล้แค่ไหน จนกระทั่งทหารอาสาต้องเปลี่ยนยุทธวิธี โดยส่งทีมโจมตีไปรับคนของโรซ่าออกไป แล้วระเบิดเกาะนั้นทันที
โรซ่าได้แต่เฝ้าดูเกาะแห่งอิสรภาพระเบิดเป็นควัน แล้วค่อย ๆ จมลงสู่ทะเล แต่ถึงแม้โรซ่าจะไม่สามารถรักษาเกาะนี้เอาไว้ได้ แต่สิ่งสำคัญคือเขาได้พยายามเปลี่ยนแปลงโลกอย่างดีที่สุดแล้ว