สปอยหนัง Little Women สี่ดรุณี
Little Women หรือชื่อไทยคือ สี่ดรุณี หนังที่สร้างจากวรรณกรรมสุดโด่งดังที่ถูกดัดแปลงเป็นหนังและซีรีย์หลายต่อหลายเวอร์ชั่น โดยเรื่องนี้เป็นผลงานกำกับของผู้กำกับหญิงมากความสามารถแห่งยุคอย่าง เกรต้า เกอร์วิก ภาพยนตร์จะเล่าถึงเรื่องราวในช่วง ค.ศ. 1860 โดยเปิดฉากขึ้นที่ โจ มาร์ช ได้นำเรื่องสั้นที่แต่งขึ้นไปเสนอขายให้กับสำนักพิมพ์โดยหลอกว่านี่เป็นงานของเพื่อนเธอ แล้วเขาก็ตกลงที่จะรับซื้อ ตอนนี้เธอพักอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ ที่บังเอิญมีศาสตราจารย์คนหนึ่งที่อาศัยอยู่ และแอบมีใจให้เธอ ทั้งสองได้ทำความรู้จักกันและสนิทกันในเวลาต่อมา
เรื่องราวย้อนกลับไปในอดีต เมื่อ 7 ปีก่อน ช่วงเวลาที่สมาชิกในครอบครัวพี่สาวน้องสาวสี่คน ได้แก่ เม็ก พี่สาวคนโตผู้ใฝ่ฝันจะมีครอบครัวอบอุ่น โจ พี่สาวคนรอง หัวขบถ ผู้มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นนักเขียน เอมี่ ว่าที่จิตรกรสาวที่รักอิสระแต่ซื่อตรงกับความรู้สึกตนเอง และเบธ น้องสาวคนเล็กผู้มีเสียงดนตรีในหัวใจ ยังอาศัยอยู่ในแมสซาชูเซตส์ด้วยกัน ในช่วงสงครามกลางเมือง ร่วมกับ มาร์มี แม่ของพวกเธอพวกเธอต่อสู้ดิ้นรนเพื่อหาเลี้ยงปากท้องในขณะที่พ่อของพวกเธอไปรบในสงคราม
ในค่ำคืนหนึ่ง เม็ก และ โจได้รับเชิญไปงานปาร์ตี้สุดหรู ในขณะที่เม็ก พยายามเฟรนลี่คุยกับทุกคนในงาน ด้านโจ ได้ปลีกตัวออกมา ทำให้เธอได้พบกับ ลอรี่ ทั้งคู่ไม่สนใจปาร์ตี้ไร้สาระจริงๆ และเม็กเตือนโจว่าชุดท่อนล่างของเธอกำลังจะพัง พวกเขาจึงออกไปเต้นข้างนอกด้วยกัน เวลาผ่านไปเม็กข้อเท้าแพลง และลอรี่จึงอาสาพาพวกเธอกลับบ้าน
ในเช้าวันคริสต์มาส สาวๆ ตื่นเต้นที่จะได้ร่วมงานเลี้ยง แต่ก่อนที่จะได้กิน มาร์มี ได้ขอให้พวกเธอเอาอาหารไปให้ครอบครัวหญิงยากไร้ที่กำลังหิวโหยและอาศัยอยู่ในกระท่อมเล็กๆ สาวๆ ตกลงที่จะทำเช่นนั้น และในระหว่างทางที่สาวๆ ตั้งใจไปช่วยเหลือหญิงยากไร้ ลอรี่ ลอเรนซ์ ซึ่งอาศัยอยู่ใกล้กับคุณปู่ของเขา จึงขอให้คุณปู่แบ่งอาหารให้พวกเธอ
เมื่อกลับมาก็พบว่างานเลี้ยงที่หรูหรายิ่งกว่า กำลังรอพวกเธออยู่ ซึ่งอาหารมื้อนี้ถุกจัดโดยครอบครัวลอเรนซ์นั่นเอง
เมื่อวันหยุดจบลง ทุกคนต่างก็กลับไปใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง โจใช้เวลาที่บ้านของป้ามาร์ช ที่ร่ำรวย และอ่านหนังสือให้เธอฟัง ป้ามาร์ชต้องการให้โจเป็นผู้หญิงที่เหมาะสมกับคนรวย และบอกว่าเธออาจจะพาเธอไปยุโรปด้วย ด้านเอมี่ ถูกลงโทษที่วาดภาพล้อเรียนครู ลอรี่เห็นจึงชวนหญิงสาวเข้ามาสงบสติอารมณ์ในบ้าน และติดตามแม่ของเธอมารับ นั่น ทำให้ครอบครัวมาร์ชกลายเป็นเพื่อนกับลอเรนซ์ คุณลอเรนซ์ชอบเบธที่ขี้อายมาก ซึ่งทำให้เขานึกถึงลูกสาวที่เสียชีวิตไปแล้ว เขาบอกเป็นนัยกับเธอว่าเธอสามารถมาเล่นเปียโนได้ทุกเมื่อที่เธอชอบ ซึ่งเธอทำได้อย่างสวยงาม
เย็นวันหนึ่ง เม็กและโจ มีนัดไปกับลอรี่และครูจอห์น ครูสอนพิเศษหนุ่ม เพื่อรับชมการแสดงกัน เอมี่ขอร้องจะไปด้วย แต่พี่สาวไม่อนุญาต หลังจากที่โจบอกเธออย่างหยาบคายว่าไม่ เอมี่ก็เผาหนังสือที่โจเขียนด้วยความโกรธ โจเสียใจมาก และแม้เอมี่จะขอโทษ แต่โจก็ไม่ได้สนใจเธอ
วันรุ่งขึ้น ลอรี่กับโจไปเล่นสเก็ตน้ำแข็งกัน ด้านเอมี่ ก็วิ่งไล่ตามพวกเขา แต่โจก็ไม่ได้สนใจเธอและไม่เตือนเธอถึงอันตราย จู่ๆ เอมี่ได้ตกลงไปในทะเลสาบที่กลายเป็นน้ำแข็ง ลอรี่และโจได้รีบเข้าไปช่วยเธอ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ทำให้โจฉุกคิดและโกรธตัวเองที่มัวแต่โกรธน้องสาว แม่ของโจก็ได้บอกว่าประสบกาณ์ชีวิตจะสอนให้เรารับมือกับมันได้ง่ายขึ้น
ในขณะเดียวกัน เม็กได้รับเชิญให้ไปงานเลี้ยงแฟนซีเพื่อพบกับคู่ครองและสวมชุดที่สวยที่สุดของเพื่อนเธอ ลอรี่ที่อยู่ที่นั่น กลับรู้สึกอับอายที่เธอถูกดึงดูดและทำตามวัฒนธรรมแฟนซี และพูดจาทำร้ายความรู้สึกของเธอ ด้านความสัมพันธ์ของอีกคู่ เม็ก เริ่มตกหลุมรัก จอห์น แม้ว่าเขาจะยากจนก็ตาม วันหนึ่ง มาร์มี ได้รับข่าวว่าคุณมาร์ชพ่อของพวกเธอสภาพไม่ดีเลย เธอเลยจะเดินทางไปดูแลเขา โจ จึงตัดสินใจขายผมของเธอเพื่อจ่ายค่าเดินทาง จอห์นร่วมเดินทางไปกับมาร์มี ก่อนมาร์มีจะไปเธอบอกให้สาวๆ ดูแลครอบครัวหญิงยากไร้อย่างต่อเนื่อง แต่สาวๆ ก็ละเลยที่จะทำเช่นนั้น มีแค่เบธที่ไปเล่นกับเด็ก ๆ วันหนึ่งขณะที่เบธกำลังไปหาคุณลอเรนซ์เพื่อเอารองเท้าที่เธอทำไปให้ให้มิสเตอร์ลอเรนซ์เป็นการขอบคุณสำหรับเปียโน เขาสังเกตุเห็นว่าเธอเป็นไข้ หลังจากตรวจคุณหมอบอกว่าเธอเป็นไข้อีดำอีแดง
ด้วยความที่ โจ และ เม็กเคยผ่านโรคนี้มาแล้วและมีภูมิคุ้มกัน แต่เอมี่ยังไม่เคย เธอจึงถูกส่งไปอยู่กับป้ามาร์ช ผู้ซึ่งยืนหยัดในความคิดของเธอ บอกเธอว่าเธอต้องแต่งงานกับคนรวย เพื่อดูแลครอบครัวของเธอ เมื่อเบธอาการไม่ดีขึ้น ด้าน มาร์มี พอได้ทราบข่าว เธอก็ได้รีบกลับมารักษาพยาบาลเบธให้หายดี หลายสัปดาห์ผ่านไป ในที่สุดคุณมาร์ช พ่อของสาวๆก็กลับบ้าน ทุกคนดีใจมาก
หลังจากนั้น เม็กและจอห์นก็ได้แต่งงานกัน โดยมีป้ามาร์ชจัดการค่าใช้จ่ายในการแต่งงานให้ แม้ว่าเธอจะไม่ยินยอมก็ตาม และป้ามาร์ช ก็ได้มาชวนเอมี่มาเที่ยวยุโรปกับเธอ ทำให้โจผิดหวัง ลอรี่สังเกตุเห็นความผิดหวังของเธอ เขาได้เข้ามาสารภาพกับโจว่า เขารักเธอ และต้องการแต่งงานกับเธอ โจอารมณ์เสีย ไม่อยากแต่งงาน และคิดว่ามันเป็นความคิดที่ไม่ดีที่จะจบลงด้วยการที่เธอและลอรี่เกลียดกัน เธอไม่ได้รักเขาแบบนั้น และไม่เชื่อว่ามันจะดีต่อตัวพวกเขา ลอรี่เสียใจ
เหตุการณ์กลับมาในปัจจุบัน โจย้ายไปนิวยอร์กเพื่อทำงานสอนพิเศษในหอพัก เธอเขียนเรื่องราวและขายหนังสือเล็กๆ น้อยๆ ให้กับคุณแดชวูด ที่สำนักพิมพ์ท้องถิ่น เธอได้พบกับเพื่อนร่วมห้อง ศาสตราจารย์ฟรีดริช แบร์ ซึ่งชอบโจและคิดว่าเธอเป็นนักเขียนที่มีพรสวรรค์ แต่เมื่อเขาวิจารณ์งานของเธอ เธอปฏิเสธความคิดเห็นของเขาด้วยความโกรธ ขณะที่โจเดินทางกลับ เธอได้แวะไปเช็คกล่องจดหมายลับ แต่ไม่พบอะไร พอถึงบ้านก็ได้พบเม็ก คุณแม่ลูกสอง โจกลับมาบ้านครั้งนี้ เพื่อจะมาอยู่บ้านถาวร
ส่วนด้าน เอมี่ เธออยู่ฝรั่งเศสกับป้ามาร์ช ชีวิตขิองเธอกำลังไปได้สวย จนกระทั่งเอมี่บังเอิญเจอลอรี่ เธอชวนเขามางานปาร์ตี้ แต่เขากลับยืนขึ้นและปรากฏตัวในภายหลัง เมาแล้วสร้างเรื่อง แต่ก็ยังทำร้ายโจ เขาเยาะเย้ยผู้ชายที่มาจีบเอมี่ ทำให้เธออับอาย ต่อมาเขาขอโทษและเสนอความคิดที่จะแต่งงานกับเธอ ซึ่งเธอปฏิเสธ โดยบอกว่าเธอเป็นรองโจมาตลอดและเธอจะไม่กลับมาอีก ไม่ใช่ตอนที่เธอรักลอรี่มาโดยตลอด
ในขณะเดียวกัน เม็กและจอห์นซึ่งตอนนี้มีลูก กำลังประสบปัญหาเรื่องเงิน เม็กรู้สึกไม่ปลอดภัยเกี่ยวกับทรัพย์สมบัติของเธอ ใช้เงินเกินตัวไปกับการแต่งตัวหรูหรา จอห์นรู้สึกว่าเขาทำให้เธอผิดหวังที่ไม่ทำให้เธอมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่เมื่อทั้งคู่ได้ปรับความเข้าใจกันก็ทำให้พวกเขารักกันมากกว่าเดิม โจได้รับข่าวว่าเบธป่วยหนัก เธอจึงออกจากนิวยอร์ก พาเบธไปที่ชายหาด ซึ่งบอกเธอว่าเธอรู้ว่าเธอกำลังจะตาย โจ ยืนยันว่าไม่ แต่ เบธ ขอให้เธอเขียนเรื่องราวให้เธอออ่านหน่อย โจจึงได้เขียนเรื่องราวของ สี่ดรุณี ให้เบธอ่าน เบธชอบมันมาก หลังจากไปเที่ยวกัน อาการของเบธไม่ดีขึ้นเลย เบธยอมจำนนต่อความเจ็บป่วย จนในที่สุดเธอก็ได้จากโลกนี้ไป ด้านแม่ ได้บอกกับโจว่า เอมี่และลอรี่ได้รับข่าวว่าเบธเสียชีวิตแล้ว พวกเขาก็กำลังเดินทางมา โจบอกมาร์มีว่าบางทีเธออาจทำผิดพลาดกับลอรี่ แม้ว่าเธอไม่คิดว่าควรต้องแต่งงาน แต่เธอก็รู้สึกเหงา มาร์มีถามเธอว่าเธอรักลอรี่หรือไม่ และคำตอบของเธอก็เผยให้เห็นว่าแท้จริงแล้วเธอไม่ได้รักลอรี่ เธอเขียนข้อความถึงเขาโดยบอกว่าเธอทำผิดพลาดและทิ้งไว้ในกล่องจดหมายของพวกเขา
เมื่อ เอมี่และลอรี่มาถึงบ้าน ลอรี่ได้บอกโจว่าเขากับเอมี่แต่งงานกันแล้ว เธอตกใจมาก วิ่งไปเอาโน๊ตของเธอมาฉีกทิ้ง โจกลับมาตั้งใจเขียนหนังสืออีกครั้ง คืนแล้วคืนเล่า จนเสร็จ และส่งไปให้ คุณแดชวู้ดผู้ซึ่งบอกเธอในที่สุดว่าเรื่องราวนั้นสั้นเกินไป ไม่นานหลังจากนั้นป้ามาร์ชก็ได้เสียชีวิต และยกคฤหาสของเธอให้กับโจ โจจึงจะเปิดเป็นโรงเรียนให้เด็ก ๆ ในขณะเดียวกัน ฟรีดริช ก็ได้มาหาโจ ฟรีดริชมาถึงแมสซาชูเซตส์โดยอ้างว่าเคยอยู่ที่นี่ เขาได้ทานอาหารเย็นกับทุกคนในครอบครัวมาร์ชซึ่งเห็นได้ชัดว่าโจชอบเขามากแค่ไหน เขาบอกว่าเขามีข้อเสนองานในแคลิฟอร์เนียและเขาอาจจะรับข้อเสนอนี้โดยไม่มีอะไรให้อยู่ เมื่อเขาจากไป ทุกคนบอกให้โจไปตามเขา เม็กและเอมี่จึงพาโจขึ้นรถม้าเพื่อไล่ตามเขาท่ามกลางสายฝน
ตัดไปฉากที่ โจ พบกับ คุณแดชวู้ดซึ่งต้องการให้เธอเปลี่ยนตอนจบ แต่ลูกของแดชวู้ดมาบอกว่าพวกเขาได้อ่านงานเขียนของโจและตกหลุมรักทันทีที่ได้อ่าน เธอเล่าว่านางเอกหลักต้องจบลงแบบไม่มีใครยอมใคร เธอบอกว่านั่นคือตัวละครที่บอกว่าเธอไม่เคยต้องการแต่งงานตั้งแต่ต้นและนั่นคือตอนจบ และเธอก็ยังยืนยันที่จะใช้นามปากกาในชื่อของเธอ โจเขียนตอนจบของเธอไว้ว่า โจ ออกไปไล่ตามฟรีดริช หยุดเขาก่อนที่เขาจะจากไป และทั้งสองก็จูบกัน หลังจากนั้นโจได้เปลี่ยนบ้านป้ามาร์เป็นโรงเรียน อย่างที่ตั้งใจ ครอบครัวมาร์ชทั้งหมด ได้ฉลองวันเกิดของมาร์มี ที่นั่นอย่างมีความสุขด้วยกัน และในที่สุดหนังสือของโจก็ได้รับการตีพิมพ์ ซึ่งชื่อหนังสือของโจ ที่ได้รับการตีพิมพ์ คือชื่อ Little Women