สปอยหนัง Watch Out, We’re Mad คู่บ้า อย่าให้เดือด เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นที่อู่แห่งหนึ่ง ชาย 2 คนถกเถียงกันเกี่ยวกับเรื่องราวของรถชนกัน พวกเขาทั้งคู่ได้ท้าแข่งกันเล่นไพ่ งัดข้อ และแข่งรถ ลูกชายคนโตของหนึ่งในชายทั้ง 2 คน ได้เดินไปเรียกพ่อของตัวเองแต่พ่อตอบกลับว่าอย่ามายุ่ง พร้อมกับบอกลูกชายว่าอย่าไปยุ่งกับรถ ทำให้เขาอยากรู้จึงเปิดผ้าคลุมรถขึ้น ในขณะที่น้องชายคนเล็กได้เดินมาดู ใต้ผ้าคลุมรถเป็นรถดูนบั้กกี้ เครื่อง 1200 ซีซี 41 แรงม้า พี่รู้สึกตื่นเต้นกับรถคันนี้มาก และขึ้นไปนั่งบนฝั่งคนขับ ส่วนน้องได้เตือนพี่ชายว่าพ่อห้ามยุ่งกับรถคันนี้ พ่อจะโกรธพี่มาก น้องพยายามห้ามพี่ชายอยู่สักครู่หนึ่ง ก่อนที่พี่จะเสนอให้น้องเป็นคนขับก่อน จากนั้นพวกเขาจึงได้ขับรถหนีออกจากอู่ โดยไม่ฟังคำสั่งห้ามยุ่งกับรถของพ่อ
2 พี่น้องได้ขับรถไปตามถนน พวกเขาพบชาย 2 คน กำลังโบกไม้โบกมือ และมีมอร์เตอร์ไซจอดอยู่ข้างๆ รถของพวกเขาน้ำมันหมด เขาได้ดูดน้ำมันจาก ดูนบั้กกี้ เติมให้มอร์เตอร์ไซ ชาย 2 คน ได้ชมว่ารถสวย และขอลองขับ แต่2 พี่น้องก็ได้ปฎิเสธ จากนั้นชายคนนึงได้ชวนเล่นเกม ถ้าหากเขาแพ้จะยอมยกมอร์เตอร์ไซให้ หากเขาชนะขอการขับ ดูนบั้กกี้ 1 รอบ 2 พี่น้องจึงตกลงเล่นเกม และพบกับความพายแพ้ ชายคนนึงจึงได้ขับ ดูนบั้กกี้ ไปแล้วไม่กลับมาอีกเลย
หลายปีต่อมา ที่คณะละครสัตว์โวแลนด์ คาเรซซ่า ได้ซ่อมรถให้ มิเรียม จากนั้นแก้งคอปบร้า นำโดย สกาโนย่า พร้อมลูกน้องได้บุกเขามาในคณะละครสัตว์โวแลนด์ และทำลายข้าวของเพื่อไล่ที่ คาเรซซ่า ได้ยืนกอดอกดู เข้ามองไปเห็นกระดาษสีเหลืองแผ่นเล็กเชิญชวนแข่งเพื่อชิงรางวัลรถดูนบั้กกี้ สกาโนย่าเห็นท่าทางของ คาเรซซ่า จึงเกิดการหมั่นไส้ และเดินเข้าไปหาเรื่อง แต่คาเรซซ่า ไม่เล่นด้วยเขาเดินหนีไป ก่อนจะขึ้นรถและขับออกไป
คาเรซซ่า ได้กลับมายังอู่ อีกไม่นาน ซอริโซ่ ก็ได้มายังอู่เช่นกัน ในมือของซอริโซ่ ถือกระดาษสีเหลืองแผ่นเล็กเชิญชวนเล่นเกมเพื่อชิงรางวัลรถดูนบั้กกี้ เหมือนกับที่ คาเรซซ่า ได้เห็น คาเรซซ่า กำลังเปิดตู้เก็บของจ้องมองไปที่ชุด แข่งขันและหมวกของพ่อ ที่เป็นอดีตนักแข่ง ดูนบั้กกี้ จากนั้น ซอริโซ่ ได้เดินเข้ามาทักทาย คาเรซซ่า จากความโกรธของเหตุการณ์ในอดีต คาเรซซ่า ต่อย ซอริโซ่ และบอกว่าจะไปขอยุ่งด้วยอีก
ต่อมาเขาทั้งคู่ได้เข้าร่วมการแข่งขันรถ ที่เวียดนาม ผู้จัดการแข่งคือตระกูล ตอซิลโล่ ในการแข่งขันครั้งนี้ได้มีลูกชายของกระกูลนี้เข้าแข่งขันด้วย โดยการเดินพันในครั้งนี้มีเป็นรางวัลรถดูนบั้กกี้ ปี 1974 พวกเขาแข่งกันอย่างดุเดือด รถของพวกเขาชนกันจนคว่ำไม่สามารถขับต่อไปได้ เขาทั้งคู่ลงจากรถเพื่อวิ่งให้ถึงเส้นชัยเป็นชัยชนะของร่วมทั้งคู่ สร้างความอับอายให้กับตระกูล ตอซิลโล่ อย่างมากเพราะคนของพวกเขาแพ้
บ้านของตระกูล ตอซิลโล่ เกิดการถกเถียงระหว่างพ่อ และลูกที่แพ้การแข่งขัน แต่ไม่อยากเสียรถดูนบั้กกี้ ปี 1974 ให้ผู้ชนะอื่นไป พวกเขาจึงคิดจะไปทวงรถคืนมา พ่อได้สอนลูก ว่าให้ใช้วิธียังไงเพื่อให้ได้สิ่งที่อยากได้เหมือนกับที่เขาใช้งานแก้งคอปบร้า ไปไล่ที่คณะละครสัตว์โวแลนด์ ทั้งทำลายข้าวของ ทั้งข่มขู่
2 พี่น้องกลับไปยังอู่ ด้วยความดีใจที่ได้รถของพ่อกลับมา แต่ด้วยชัยชนะร่วมของทั้งคู่ ทำให้เขาตกลงเรื่องรถดูนบั้กกี้ กันไม่ได้ ซอริโซ่ ได้ขอขับรถดูนบั้กกี้อีกครั้งเหมือนตอนยังเป็นเด็ก แต่คาเรซซ่า ไม่อนุญาติและยืดพวงมาลัยรถเอาไว้ ซอริโซ่ จึงได้ท้า คาเรซซ่า ให้มาแข่งกันอีกรอบระหว่างพี่ และน้อง เหมือนสมัยเด็กๆ คาเรซซ่า จึงรับคำท้า แต่เขาจะต้องเป็นคนขับดูนบั้กกี้
เขาทั้งคู่ไปยังร้าน รอสโก้ ไส้กรอก และเบียร์ เพื่อแข่งกันเป็นเจ้าของรถ เขาได้สั่งไส้กรอก 40 ชิ้น กับเบียร์อีก 20 แก้ว ใครกันได้มากกว่ากันจะเป็นเจ้าของรถ ในระหว่างที่พวกเขากำลังแข่งขัน มิเรียม ได้โผล่เข้ามาขอร้องให้ช่วยจากการโดนแก้งคอปบร้ารังแก แต่ คาเรซซ่า ได้ปฎิเสธเธอ ส่วน ซอริโซ่ ได้ตกหลุดรักเธอ จึงตามออกไปนอกร้านเพื่อคุยกับเธอ แต่ก็ไม่พบเธอ และรถดูนบั้กกี้ยังหายไปอีก ซอริโซ่ จึงได้กลับไปบอก คาเรซซ่า ว่ารถดูนบั้กกี้ถูกขโมยไปอีกครั้ง
คาเรซซ่า และ ซอริโซ่ คิดว่า มิเรียม ขโมยรถไป เพราะโกรธที่พวกเขาปฎิเสธที่จะช่วยเธอ แก้งคอปบร้า พวกเขาจึงได้ไปที่ คณะละครสัตว์ เพื่อทวงรถคืน เมื่อพวกเขาไปถึง มิเรียม ได้ปฎิเสธว่าเธอไม่รู้เรื่องรถ แต่เขา 2 คนไม่เชื่อ จึงได้ทะเลาะกัน ทางญาติของมิเรียม ก็ได้ทนไม่ไหวจนได้ แข่งขันตกหน้ากัน ต่อยตีกันจนวุ่นวาย จากนั้นมิเรียมเห็นว่าเหตุการณ์เริ่มแย่จึงได้เข้ามาห้าม
ส่วน มิเรียม กับ ซอริโซ่ ก็ได้ไปคุยกันแบบส่วนตัว ว่าเธอไม่ได้เอารถไป แต่เธอเห็น รานิเอโร่ ลูกชายตระกูล ตอซิลโล่ ขโมยรถกลับไปเพราะพวกเขาไม่เคยแพ้ และจะต้องเสียรถ รวมถึงที่ดินของ คณะละครสัตว์ ของมิเรียมด้วยจึงใช้แก้งคอปบร้ามารังแก และเธอก็ยืนยันว่าจะไม่ย้ายไปไหน
คาเรซซ่า และ ซอริโซ่ ได้ไปที่บ้านของ ตระกูล ตอซิลโล่ เพื่อทวงรถคืน แต่ คาเรซซ่า กลัวจึงกลับไปก่อน ซอริโซ่ จึงเข้าไปในบ้านคนเดียว จากนั้นโดน แก้งคอปบร้าจับตัวไว้ แต่ คาเรซซ่า ตามกลับมาช่วยไว้ได้ และบุกเข้าไปหา ตอซิลโล่ ที่กำลังคุยธุรกิจบนที่ดินของ คณะละครสัตว์ ซึ่ง ตอซิลโล่ ก็รับปากว่าจะคืนรถให้ในตอนเที่ยงของวันพรุ่งนี้
ซอริโซ่ กลับไปที่อู่อย่างมีความสุข แต่คาเรซซ่า โมโหข้อตกลังที่ทำไว้กับ มิเรียน เพราะเขารู้ว่า พวกคณะละครสัตว์ เป็นพวกงี่เง่า พวกเขานั่งรอรถของตัวเองจนถึงเวลาเที่ยง พวกเขาได้รถคืนแต่เป็นรถของเล่น จากนั้น ตอซิลโล่ สั่งใหเแก้งคอปบร้าที่มาด้วยกระทืบ คาเรซซ่า และ ซอริโซ่ แล้วขับรถหนีไป ซอริโซ่ จึงได้ขี้มอเตอร์ไซหนี และจัดการพวกคอปบร้าที่ตามมาจนเกลี้ยง
จากนั้นแก้งคอปบร้า ก็ไม่มากวนพวกเขาทั้ง 2 และคณะละครสัตว์ อีกเลย ตระกูล ตอซิลโล่ รู้สึกเสียหน้า จากสิ่งที่ 2 พี่น้อง คาเรซซ่า และ ซอริโซ่ ทำจึงต้องการที่จะแก้แค้น รานิเอโร่ อยากจบเรื่องทั้งหมด จึงคิดว่าจะนำรถไปคืน แต่ ตอซิลโล่ ไม่ยอมให้คืนรถถึงจะต้องทำลายรถทิ้งก็ยอม
รานิเอโร่ ต้องการที่จะกู้ชื่อเสียงของ ตระกูล ตอซิลโล่ กลับมาจึงกลับไปยัง คณะละครสัตว์ คืนที่มีการแสดง คาเรซซ่า และ ซอริโซ่ ก็อยู่ที่นั่นเดียวนำรถดูนบั้กกี้ ไปเผาต่อหน้า จากนั้นเผาคณะละครสัตว์ คาเรซซ่า และ ซอริโซ่ ขับรถกลับมายังอู่ พบว่าอู่ของเขาก็โดนเผาด้วยเช๋นกัน คาเรซซ่า และ ซอริโซ่ ถกเถียงกันอีกครั้ง ถึงเรื่องราวในสมัยยังเป็นเด็ก ว่าเพราะใครทำให้รถดูนบั้กกี้ของพ่อ ถูกขโมยไป
ซอริโซ่ กลับไปยังละครสัตว์ที่โดนเผาอีกครั้ง เพื่อหามิเรียม ที่กำลังเก็บข้าวของเพื่อไปจากที่นี่ คาเรซซ่า เริ่มคิดแล้วว่าจะต้องทำอะไรบางอย่างคืนไปบ้าง เขาจึงไปหา ซอริโซ่ และมิเรียม ที่กำลังจะเดินทาง เพื่อชวนให้มาร่วมสู้กับ ตระกูล ตอซิลโล่ แล้วพวกเขาก็ตกลง
ตอนกลางวันที่บ้านของตระกูล ตอซิลโล่ มีการจัดงานเลี้ยง กับชัยชนะ ที่สามารถยืดที่ดินมาได้ คาเรซซ่า และ ซอริโซ่ ร่วมถึงคณะละครสัตว์ ได้บุกเข้าไปในงาน จัดการพวกคอปบร้าจนเกลี้ยง ตอซิลโล่ พยายามหนีเอาตัวรอดได้เจอกับเสือของมิเรียม เขาจึงขอร้องให้ไว้ชีวิตเขา แล้วเข้าจะไปจากที่นี่
หลังจากการล่มสลายของตระกูล ตอซิลโล่ ทำให้คณะละครสัตว์ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ คาเรซซ่า และ ซอริโซ่ ก็ได้รถคืน พวกเขากลับไปยังร้าน รอสโก้ ไส้กรอก และเบียร์ เพื่อแข่งกันเป็นเจ้าของรถอีกครั้ง แต่มิเรียมก็ได้โผล่มาขัดจังหวะอีกตามเคย แล้วขโมยรถดูนบั้กกี้ไป